การออกแบบแม่พิมพ์กดขึ้นรูปด้วยโปรแกรม
3D
การออกแบบแม่พิมพ์ด้วยโปรแกรม 3D ปัจจุบันยังไม่เป็นที่นิยมมากนักแต่ในอนาคต คาดว่าจะมีการใช้โปรแกรม 3D
ช่วยในการออกแบบมากขึ้น
เพราะแต่ละโปรแกรมมีการพัฒนาให้สามารถใช้งานได้สะดวกขึ้นและรองรับกับแบบงานของลูกค้าที่นิยมส่งมาเป็น Modeling หรือ ภาพ 3D มากขึ้น และ การใช้ร่วมกับงาน CAE
และ CAM
ได้ง่ายขึ้น
ขั้นตอนการออกแบบแม่พิมพ์ 3D จะไม่แตกต่างจาก 2D มาก
ยกเว้นการใช้คำสั่งและการสร้างภาพที่แสดงให้เห็นเหมือนจริงมากขึ้น มีขั้นตอนโดยสรุปดังนี้

รูปที่ 2.20
โครงข่ายการเขียนแบบด้วย
CAD 3D
(1). สร้างหรือนำเข้าชิ้นงาน ที่เป็น Wire
Flame หรือ Surface Modeling
ดังรูป

รูปที่ 2.21 ตัวอย่างชิ้นงานเพื่อนำมาออกแบบแม่พิมพ์
ขั้นตอนนี้เป็นการสร้างภาพชิ้นงานหรือนำเข้าจากลูกค้า เพื่อมาแก้ไขเป็น เป็น Wire Flame
หรือ Surface Modeling
เพื่อเตรียมส่งไปปรับแต่งเตรียมทำผิว Punch
และ Die
(2) ปรับแต่งภาพและเติมผิว(Binder)
เพื่อออกแบบ Die Face และทำ Binder ดังรูป

รูปที่ 2.22 ตัวอย่างการออกแบบ Binder
หลังจากปรับแต่งให้ได้แบบงาน สามมิติที่สมบูรณ์แล้ว จะขยายปีกชิ้นงาน (Binder) ออกเป็นแผ่นเปล่า (Blank) เพื่อ
เตรียมกำหนดการใส่รายละเอียดการขึ้นรูป
เช่นการเหยียบ (Blank
holder) การใส่ลอน (Bead)
หรือวิเคราะห์การขึ้นรูป
(CAE)
(3). แก้ไขภาพและพื้นผิวให้สมบูรณ์ เพื่อทำการจำลองและวิเคราะห์การขึ้นรูป

รูปที่ 2.23 ตัวอย่างการแก้ไขผิวงาน
ภาพแสดงการการวิเคราะห์การขึ้นรูปและโครงสร้างของโลหะที่ได้รับผลกระทบและเปลี่ยนแปลงไปตามทิศทางที่ถูกแรงกระทำทำให้เกิดรูปร่างดังรูป
(4).
จำลองการขึ้นรูปเพื่อวิเคราะห์ปัญหา พยากรณ์การขึ้นรูปด้วย CAE
และหาขนาดสัดส่วนที่ต้องการก่อนแปลงไปสู่
CAM

รูปที่ 2.24 ตัวอย่างการวิเคราะห์ปัญหา
พยากรณ์การขึ้นรูปด้วย CAE
ผลการจำลองการขึ้นรูปเมื่อเกิดจุดวิกฤติ และเกิดความเสียหายต่อชิ้นงานดุงรูป
(5). วิเคราะห์ปัญหาและปรับแก้ หรือเสริมองค์ประกอบช่วยในการขึ้นรูปเช่นการพิจารณาเลือกวิธีการใส่ Bead เป็นต้นแล้วทดลองขึ้นรูปใหม่จนกว่าจะได้ชิ้นงานที่สมบูรณ์ ดังรูป

รูปที่ 2.25 ตัวอย่างการออกแบบ Bead ในแม่พิมพ์
(6).
หาขนาดแผ่นเปล่ากรณีที่ต้องการหา หรือเป็นงาน
Forming
(7). วาง ขั้นตอนการขึ้นรูปและ
กำหนด Die Layout Process
ดังรูป

รูปที่ 2.26 ตัวอย่างการแยกส่วนขั้นตอนการขึ้นรูปของแม่พิมพ์
จากรูปจะเป็นการกำหนดขั้นตอนการขึ้นรูป สามมิติ
แสดงให้เห็นภาชิ้นงานและขั้นตอนชัดเจน
จะประกอบด้วยการกดลากขึ้นรูป
และการตัดขอบ
(8). แปลงขนาดชิ้นงานเป็น Upper และ Lower
โดยการใช้คำสั่งชดเชยขนาดหรือลดขนาด หรือ Offset ค่าลงไปเลยก็ได้โดยยึดตัวที่มีขนาดบังคับเป็น ศูนย์
(เหมือน 2D) แล้วกำหนดให้ชิ้นงานตัวผู้เป็น Punch
และตัวเมียเป็น Die และต้องจำให้ได้ว่าตัวใดที่ขนาดคงที่เพื่อไม่ให้ผิดพลาดในการแปลงภาพไปเป็นคำสั่งกัดงาน จะไม่ทำให้สับสนและเผื่อค่าผิดพลาดได้
(9).
แยกงานแต่ละขั้นตอนนำไปออกแบบแม่พิมพ์แต่ละชุดด้วยโปรแกรม 3D
ตามขนาดที่เป็นจริง
โดยยึดหลักการตามการออกแบบ 2D

รูปที่ 2.27 ตัวอย่างการออกแบบแม่พิมพ์จาก CAE
และโปรแกรม 3D
(10). เขียนแบบชิ้นส่วนต่าง ๆ ในโปรแกรม
3D และประกอบภาพในคำสั่งประกอบ Assembly เพื่อดูภาพแม่พิมพ์

รูปที่ 2.28 ตัวอย่างแม่พิมพ์ Forming ที่ออกแบบด้วยโปรแกรม 3D
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น